สถานีประชาธิปไตย (อังกฤษ: Democracy Station) เป็นสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศผ่านระบบดาวเทียม เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการเมืองการปกครองในประเทศไทย
เริ่มทดลองออกอากาศ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 06.00 น.[1][2] และแพร่ภาพอย่างเป็นทางการ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552 โดยจะมีสัดส่วนของรายการประกอบด้วย รายการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 50, รายการข่าวและสถานการณ์ปัจจุบัน ร้อยละ 20, รายการสาระปกิณกะและบันเทิง ร้อยละ 10, รายการส่งเสริมการพัฒนาสังคม ร้อยละ 10 และรายการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ร้อยละ 10[3]
รายการโทรทัศน์
สถานีฯ มีรายการที่เริ่มออกอากาศในระยะแรก ประกอบด้วย รายการสถานีประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายพินิจ จันทรสุรินทร์ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ และ นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ, ความจริงวันนี้ ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, เพื่อนพ้องน้องพี่ และ มหาประชาชน ดำเนินรายการโดย นายวีระ นายจตุพร นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง[4]
คุยกับอดิศร ดำเนินรายการโดย นายอดิศร นายสุพร อัตถาวงศ์ และ ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น, ห้องเรียนประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย นายสุนัย จุลพงศธร นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ร้อยโทหญิงสุณิสา เลิศภควัต, เสียงประชาชน ดำเนินรายการโดย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และ นายสมยศ, ทางออกประเทศไทย ดำเนินรายการโดย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, แดงทั้งแผ่นดิน ดำเนินรายการโดย นายณัฐวุฒิ, กฎหมายต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นายนพดล ปัทมะ, สายตาโลก ดำเนินรายการโดย นายจักรภพ และ ทนายธนา อาสาคลายทุกข์ ดำเนินรายการโดย นายธนา เบญจาธิกุลและ นางสาวนิษณา วณีสอน[4]
การระงับสัญญาณออกอากาศ
เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552 กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนเข้าไปภายในบริเวณโรงแรมรอยัล คลิฟฟ์ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นที่ประชุมผู้นำอาเซียน และประเทศคู่เจรจา 3 และ 6 ประเทศ ทำให้การประชุมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 น. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี โดยให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้รักษาการณ์ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ดังกล่าว
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงอาศัยอำนาจ โดยอ้างตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อขอความร่วมมือจาก บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้ระงับสัญญาณออกอากาศของสถานีฯ ซึ่งส่งสัญญาณขึ้นสู่ดาวเทียมไทยคม อย่างเร่งด่วนโดยทันที โดยมอบหมายให้ นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงฯ เป็นผู้นำหนังสือสั่งการไปยังสถานีดาวเทียมไทยคม ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองนนทบุรี โดยอ้างว่าเนื้อหาในการออกอากาศ ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง[5]
ส่งผลให้กลุ่มคนเสื้อแดง เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้ประกาศให้ประชาชนที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ออกมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หากไม่สามารถเข้ามาในกรุงเทพมหานครได้ ขอให้ไปร่วมชุมนุม ที่ศาลากลางของทุกจังหวัด และหากมีการระงับสัญญาณสถานีประชาธิปไตยจริง มวลชนเสื้อแดงจะใช้มาตรการตอบโต้รัฐบาล ด้วยการชุมนุมปิดกั้นถนนทุกสายในประเทศไทย ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง[5]
เวลา 19.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจากหน้าทำเนียบรัฐบาล ที่นำโดย นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นำรถปราศรัย เดินทางไปถึงหน้าสถานีดาวเทียมไทยคม เพื่อสกัดกั้นการระงับสัญญาณออกอากาศได้สำเร็จ[ต้องการอ้างอิง] ต่อมา วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 13.34 น. สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางจังหวัด ซึ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน เพื่อทำการตัดสัญญาณแพร่ภาพออกอากาศของสถานีฯ และปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์สถานีฯ ด้วย
สถานีประชาชน
ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร ผู้ประกาศข่าว พิธีกร และผู้ปฏิบัติงานชุดเดิม กลับมาดำเนินการทดลองออกอากาศผ่านดาวเทียมจากต่างประเทศ ในระบบซี-แบนด์ และผ่านเว็บไซต์ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า สถานีประชาชน (อังกฤษ: People Channel) ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 และออกอากาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน ปีเดียวกัน โดยใช้ผังรายการตามเดิม และในเดือนตุลาคม 2552 ได้เปลี่ยนโลโก้บนจอให้คล้ายกับยุคดีสเตชัน และใช้เป็นโลโก้สถานีอย่างเต็มตัวในเดือนธันวาคม 2552
เริ่มทดลองออกอากาศ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 06.00 น.[1][2] และแพร่ภาพอย่างเป็นทางการ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2552 โดยจะมีสัดส่วนของรายการประกอบด้วย รายการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 50, รายการข่าวและสถานการณ์ปัจจุบัน ร้อยละ 20, รายการสาระปกิณกะและบันเทิง ร้อยละ 10, รายการส่งเสริมการพัฒนาสังคม ร้อยละ 10 และรายการส่งเสริมพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ร้อยละ 10[3]
รายการโทรทัศน์
สถานีฯ มีรายการที่เริ่มออกอากาศในระยะแรก ประกอบด้วย รายการสถานีประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายพินิจ จันทรสุรินทร์ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ และ นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ, ความจริงวันนี้ ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, เพื่อนพ้องน้องพี่ และ มหาประชาชน ดำเนินรายการโดย นายวีระ นายจตุพร นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง[4]
คุยกับอดิศร ดำเนินรายการโดย นายอดิศร นายสุพร อัตถาวงศ์ และ ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น, ห้องเรียนประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย นายสุนัย จุลพงศธร นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ร้อยโทหญิงสุณิสา เลิศภควัต, เสียงประชาชน ดำเนินรายการโดย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และ นายสมยศ, ทางออกประเทศไทย ดำเนินรายการโดย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, แดงทั้งแผ่นดิน ดำเนินรายการโดย นายณัฐวุฒิ, กฎหมายต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นายนพดล ปัทมะ, สายตาโลก ดำเนินรายการโดย นายจักรภพ และ ทนายธนา อาสาคลายทุกข์ ดำเนินรายการโดย นายธนา เบญจาธิกุลและ นางสาวนิษณา วณีสอน[4]
การระงับสัญญาณออกอากาศ
เมื่อช่วงสายวันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2552 กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนเข้าไปภายในบริเวณโรงแรมรอยัล คลิฟฟ์ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นที่ประชุมผู้นำอาเซียน และประเทศคู่เจรจา 3 และ 6 ประเทศ ทำให้การประชุมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 น. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตพื้นที่เมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี โดยให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้รักษาการณ์ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ดังกล่าว
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงอาศัยอำนาจ โดยอ้างตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อขอความร่วมมือจาก บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้ระงับสัญญาณออกอากาศของสถานีฯ ซึ่งส่งสัญญาณขึ้นสู่ดาวเทียมไทยคม อย่างเร่งด่วนโดยทันที โดยมอบหมายให้ นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงฯ เป็นผู้นำหนังสือสั่งการไปยังสถานีดาวเทียมไทยคม ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองนนทบุรี โดยอ้างว่าเนื้อหาในการออกอากาศ ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง[5]
ส่งผลให้กลุ่มคนเสื้อแดง เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ได้ประกาศให้ประชาชนที่สนับสนุนคนเสื้อแดง ออกมาร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หากไม่สามารถเข้ามาในกรุงเทพมหานครได้ ขอให้ไปร่วมชุมนุม ที่ศาลากลางของทุกจังหวัด และหากมีการระงับสัญญาณสถานีประชาธิปไตยจริง มวลชนเสื้อแดงจะใช้มาตรการตอบโต้รัฐบาล ด้วยการชุมนุมปิดกั้นถนนทุกสายในประเทศไทย ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง[5]
เวลา 19.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจากหน้าทำเนียบรัฐบาล ที่นำโดย นายสุพร อัตถาวงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นำรถปราศรัย เดินทางไปถึงหน้าสถานีดาวเทียมไทยคม เพื่อสกัดกั้นการระงับสัญญาณออกอากาศได้สำเร็จ[ต้องการอ้างอิง] ต่อมา วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 13.34 น. สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางจังหวัด ซึ่งประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน เพื่อทำการตัดสัญญาณแพร่ภาพออกอากาศของสถานีฯ และปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์สถานีฯ ด้วย
สถานีประชาชน
ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร ผู้ประกาศข่าว พิธีกร และผู้ปฏิบัติงานชุดเดิม กลับมาดำเนินการทดลองออกอากาศผ่านดาวเทียมจากต่างประเทศ ในระบบซี-แบนด์ และผ่านเว็บไซต์ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า สถานีประชาชน (อังกฤษ: People Channel) ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 และออกอากาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน ปีเดียวกัน โดยใช้ผังรายการตามเดิม และในเดือนตุลาคม 2552 ได้เปลี่ยนโลโก้บนจอให้คล้ายกับยุคดีสเตชัน และใช้เป็นโลโก้สถานีอย่างเต็มตัวในเดือนธันวาคม 2552
เว็บไซต์ : www.peoplechannel.net , www.dstationtvonline.com , www.dstation.us
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น